เกิดเหตุสลดขึ้น เมื่อ ตึกถล่ม ลงมาใส่รถประจำทางที่ขับผ่าน ในประเทศ เกาหลีใต้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 9 ศพ และได้รับบาดเจ็บ 8 ราย เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า เกิดเหตุตึกถล่มห้าชั้นใส่รถประจำทางที่กำลังแล่นผ่านในนครกวางจู ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 9 มิถุนายน ตามเวลาต้องถิ่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 9 ศพ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 8 ราย ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นผู้โดยสารบนรถประจำทาง
โดยตึกดังกล่าวถล่มลงมาขณะที่ เจ้าหน้าที่กำลังทุบทำลายตึกดังกล่าว อย่างไรก็ตามยังไม่มีการเปิดเผยแน่ชัดถึงสาเหตุที่ตึกสูงพังถล่มลงมา
ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังเร่งให้ความช่วยเหลือและเร่งตามหาผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ย้อนกลับไปในเดือนมิถุนายน ปี 1995 ได้เกิดเหตุห้างสรรพสินค้าซัมปุงพังถล่มลงมาและเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 500 ศพ โดยเหตุการณ์ครั้งนั้นถือเป็นหนึ่งในเหตุอาคารพังถล่มในนอกเหนือจากการทำสงครามที่เลวร้ายที่สุดเป็นประวัติการณ์
โดยประเทศสหรัฐอเมริกาน่าจะแบ่งวัคซีนให้กับกลุ่มประเทศยากจน และ ประเทศในสหภาพแอฟริกา รวม 92 ประเทศ ในปีนี้ 200 ล้านโดส และในครึ่งปีหน้า 300 ล้านโดส ซึ่งสหรัฐฯจะแบ่งผ่านโครงการ COVAX ซึ่งเป็นโครงการที่แจกจ่ายวัคซีนให้กับประเทศรายได้ต่ำ
ซึ่งนอกจากไฟเซอร์แล้ว โฆษกของบริษัทโมเดอร์นา อีกหนึ่งผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ ได้ออกมาแสดงความสนใจที่ช่วยเหลือประเทศรายได้ปานกลางและยากจนด้วยการแบ่งวัคซีนโควิดเช่นเดียวกัน แต่ทางบริษัทไม่ได้ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าวเพิ่มเติม
ก่อนหน้านี้ ทำเนียบขาวประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาเผยแพร่เอกสารระบุว่า ทางการสหรัฐฯตั้งเป้าที่จะแบ่งวัคซีนต้านโควิดจำนวน 80 ล้านโดสให้กับนานาประเทศในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ เพื่อเป็นการช่วยให้ทั่วโลกสามารถผ่านพ้นวิกฤติโควิดระบาดได้
โดยจำนวน 7 ล้านโดส จะถูกแบ่งให้กับภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ อินเดีย เนปาล บังกลาเทศ ปากีสถาน ศรีลังกา อัฟกานิสถาน มัลดีฟ มาเลย์เซีย ฟิลิปปินส์ เวียตนาม อินโดนีเซีย ไทย ลาว ปาปัว นิวกินี ไต้หวัน และประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก
พล.อ. ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี ไม่เข้าใจ เกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย เอาผู้ต้องหา แถลงสู้คดีในสภา ขณะลุกขึ้นอภิปรายชี้แจงการออก พ.ร.ก เงินกู้เพิ่ม 5 แสนล้านบาท ทำเอาเกือบลืมเรื่องงบฯ หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โพล่งกลางสภา ระหว่างอภิปรายชี้แจงการออก พ.ร.ก เงินกู้เพิ่ม 5 แสนล้านบาท เมื่อวานนี้ (9 มิ.ย.64) ถามเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย ? เวทีรัฐสภาอะไรได้บ้าง หลังทุกคนเอาแต่ ด่านายก ไล่นายก
หลังจากในวันเดียวกัน ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด พา นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” ผู้ต้องหาคดีน้องชมพู่ ที่อยู่ระหว่างประกันตัวชั้นศาลเข้ามาพบ นายสิระ เจนจาคะ ประธานกรรมาธิการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ให้ตรวจสอบตำรวจที่จับกุมลุงพล มีการแถลงข่าว หลังแถลงเสร็จ ลุงพลผูกผ้าขาวม้าให้นายสิระ แวดล้อมด้วยผู้สื่อข่าวและคนจำนวนมากเต็มใต้ถุนรัฐสภา
“ด่านายก ไล่นายก ออกสักที มันใช่เวทีไหม ทำอะไรได้บ้างที่รัฐสภา เมื่อกี้ก็เอาผู้ต้องหา มาแถลงสู้คดีอยู่ข้างล่าง ใต้ถุนรัฐสภาเนี่ย มันอะไรเกิดขึ้นในประเทศไทยเนี่ย ผมไม่รู้ “ นายกรัฐมนตรี กล่าว
โฆษก เจ้าชายแฮร์รี่-เมแกน โต้ข่าว ไม่ได้ทูลขอควีนฯ ตั้งชื่อพระธิดา ‘ลิลิเบต’
โฆษกของ เจ้าชายแฮร์รี่-เมแกน ได้ออกมาโต้ข่าว หลังจากที่มีการรายงานว่า ทั้งสองพระองค์ ไม่ได้ทูลขอควีนฯ ในการตั้งชื่อพระธิดา ‘ลิลิเบต’ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน สำนักข่าว CNN รายงานว่า โฆษกของดยุคแห่งซัสเซกซ์ หรือ เจ้าชายแฮร์รี่ ซึ่งเป็นพระสวามีของ เมแกน ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ได้ออกมาปฏิเสธ หลังจากที่มีข่าวว่าอ้างอิง การเปิดเผยจากแหล่งข่าวในสำนักพระราชวังบักกิงแฮม
ระบุว่า เจ้าชายแฮร์รี่กับเมแกน ไม่ได้ตรวจสอบก่อนว่าทั้งคู่สามารถใช้ชื่อ ลิลิเบต ในการตั้งชื่อพระธิดาองค์ที่สอง ซึ่งเป็นชื่อเล่นในวัยของควีนเอลิซาเบธที่ 2 ไปตั้งเป็นชื่อพระธิดา
โดยทางโฆษกของดยุคแห่งซัสเซกซ์ ระบุว่า เจ้าชายแฮรี่ทรงพูดคุยกับครอบครัว ก่อนที่จะประกาศข่าวการทรงพระประสูติของ ลิลิเบ็ต ‘ลิลี่’ ไดอานา เมานต์แบตเท็น-วินด์เซอร์ ซึ่งทางโฆษกยังได้เปิดเผยอีกว่า ควีนเอลิซาเบธที่ 2 ทรงเป็นพระองค์แรกที่ติดต่อกับเจ้าชายแฮรี่
เจ้าชายแฮร์รี่กับเมแกนประกาศข่าวการมีพระประสูติการทายาทองค์ที่ 2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า พระธิดาประสูติในเวลา 11.40 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยพระธิดาทรงมีน้ำหนัก 7 ปอนด์ กับ 11 ออนซ์ (ราว 3.48 กก.) และตั้งพระนามว่า ลิลิเบต “ลิลิ” ไดอานา เมาท์แบตเทน-วินด์เซอร์ ซึ่งชื่อกลาง “ไดอานา” มาจากเจ้าหญิงไดอานาผู้ล่วงลับ พระมารดาของเจ้าชายแฮร์รี่
ช่วงท้าย นากยกฯ เอ่ย ถ้ามีปัญหาต่างๆ อะไรก็ตาม ตนได้มอบให้ผู้ที่เกี่ยวข้องชี้แจง “ถ้ามีอะไรผิดตกบกพร่อง ผิดพลาดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ ด้วยแล้วกัน นะ กราบขอบพระคุณท่านประทานสภาไปยังสมาชิกที่เคารพ ที่รักทุกคน สวัสดีครับ”
สำหรับการอภิปราย การออก พ.ร.ก เงินกู้เพิ่ม 5 แสนล้านบาท เมื่อวานนี้ มีไฮไลท์ของ ส.ส. จากหลายพรรคที่ตั้งคำถามถึงตัวคนกู้เงินอย่าง พล.อ. ประยุทธ์ ไม่น่าจะมีความสามารถในการบริหารเงินกู้ก้อนนี้ได้
อาทิ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส. “ไทยศรีวิไลย์” บอกกลางสภา พล.อ.ประยุทธ์ ก่อหนี้มหาศาล มีปัญญาใช้หนี้หรือไม่ แต่ดูแล้วยังหนังหนา หน้าทน อยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์”
เครดิต : รีวิวซีรี่ย์เกาหลี | ลายสัก | รีวิวร้านอาหาร | โทรศัพท์มือถือ ราคาถูก | เรื่องย่อหนัง